วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2561

“วาดความสุข” (Draw the Happiness)



นิทรรศการ                                  วาดความสุข” (Draw the Happiness)
ศิลปิน                                        ผู้ช่วยศาสตราจารย์สิริทัต  เตชะพะโลกุล (Siritat Techaphalokul)
ลักษณะงาน                                 จิตรกรรม
ระยะเวลาที่จัดแสด                       วันที่ 24 ตุลาคม – 16 พฤศจิกายน 2561
พิธีเปิดนิทรรศการ                          วันที่ 30 ตุลาคม 2561 เวลา 17.00น.
                                                ดร.ก้องเกียร โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเซียพลัสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์
                                                ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด
ห้องนิทรรศการ                             ห้องนิทรรศการชั้น 1 ห้องนิทรรศการ 2
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม            081-935-9745 (สิริทัต)
แนวความคิด
            โลกเปลี่ยนแปลงไปเป็นความจริง รวดเร็วและต่อเนื่อง ชีวิตเองก็ดำเนินเดินไปวนกลับผ่านวันวาน เช้าตื่นและเข้านอน เหมือนทุกวัน ไม่หยุดนิ่ง เป็นไปตามธรรมชาติ
            เมื่อมีธรรมชาติเป็นแรงบันดาลใจ จาก“ต้นไม้”ถึง“วงปี”(Annual Ring) เป็นสัญญะแสดงให้เห็นภาพดำเนินไปของชีวิตเป็นวงกลมซ้ำต่อเนื่อง เปลี่ยนแปลงขนาดที่ใหญ่ขึ้น เมื่อเปรียบชีวิตกับต้นไม้ ก่อเกิดคำถามสะท้อนแนวคิด“ความสุขของชีวิตคืออะไร” เมื่อต้นไม้เกิดจากดิน “ดินสอ”คือสิ่งแสดงแทนความคิดและจุดเริ่มต้นของการถามหา“ความสุข” ผ่านกระบวนการทางความคิดสร้างสรรค์และตัวตนผ่านเส้นลายมือเขียนภาษาไทย จาก“คำแรก”ถึง“คำสุดท้าย” แสดงถึงสมาธิ คำต่อคำ ด้วยเส้นที่อ่านออก เป็นความคิดที่อ่านได้ ในผลงาน“จิตรกรรม”ชุดนี้ แม้มีรูปแบบและพื้นที่ในการสร้างสรรค์ชัดเจน แต่แสดงให้เห็นถึงอิสระทางความคิดที่เปิดกว้างไร้ขีดจำกัด  ส่งต่อ สื่อสาร และรับรู้ถึง“ความสุข”ในการวาดได้อย่างไร้กาลเวลา

ชายคาเดียวกัน (Same House)




นิทรรศการ                                  ชายคาเดียวกัน (Same House)
ศิลปิน                                        กิติศักดิ์ เพรชแวว (kittisak Phetwaew)
                                                กิติพงษ์ เพรชแวว (kittipong Phetwaew)
ลักษณะงาน                                 จิตรกรรม
ระยะเวลาที่จัดแสด                       วันที่ 9 – 30 กันยายน 2561
พิธีเปิดนิทรรศการ                          วันที่ 9 กันยายน 2561 เวลา 18.00น.                                     
ห้องนิทรรศการ                             ห้องนิทรรศการชั้น 2 ห้องนิทรรศการ 3
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม            086-526-0702 (กิติศักดิ์)
แนวความคิด
            การจัดแสดงงานศิลปะครั้งนี้ เป็นการแสดงงานร่วมกันของสองพี่น้อง ได้แก่ นายกิติศักดิ์ เพชรแววและนายกิติพงษ์  เพรชแวว ซึ่งเป็นพี่น้องฝาแฝด ที่ได้ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน นั้นคือศิลปะ และทำงานศิลปะมาอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่า สองพี่น้องนี้จะมีหน้าตาคล้ายกัน แต่นิสัยและประสบการณ์ของชีวิต ของแต่ละคนที่ได้สัมผัสมาที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เกิดแรงบันดาลใจ ในการสร้างสรรค์งานศิลปะย่อมแตกต่างกันไป ทั้งความคิด และวิธีการนำเสนอ ที่แตกต่างกันส่งผลให้ รูปแบบงานศิลปะทั้งสองคน ได้แตกต่างกันอย่างชัดเจนโดย การจัดนิทรรศการครั้งนี้ ภายใต้ชื่อว่า ชายคาเดียวกัน หรือ Same House

            The Art Exhibition that showing in this time is co-created by a twin brothers name Kittisak and Kittiphong Phetweaw. They both in love in the same thing which that is ‘art’. They two still continue working and keep doing in what they like. Being as twins, their faces look so familiar but deeply in their personality and experiences that they have been through in the different ways made they two had a different passion. We all know ‘passion’ is very important for the artist and create their arts, so this cause why their arts were so different and those arts provided to show in the exhibit name ‘Chai Ka Deaw Kun’ or Same House.        

วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2561

“ออกนอกทาง” (Out of the Way)




นิทรรศการ                                  ออกนอกทาง” (Out of the Way)
ศิลปิน                                         วินัย พวงสมบัติ (Vinai Poungsombat)
ลักษณะงาน                                 ภาพถ่าย,งานสื่อผสม ,จิตรกรรม ,งานจัดวาง (Installation),วิดีโอทัศน์ (Vidio)
ระยะเวลาที่จัดแสด                       วันที่ 28 มิถุนายน ถึง วันที่ 19 กรกฎาคม 2561
พิธีเปิดนิทรรศการ                          วันที่ 27 มิถุนายน 2561 เวลา 18.00 น.
ห้องนิทรรศการ                             ห้องนิทรรศการชั้น 1 ห้องนิทรรศการ 1
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม            081 8821476, E- Mail: vinaiaq@gmail.com,www.aquarellreisen.co
แนวความคิด
           หลังจาการแสดงนิทรรศการเมื่อปี 2550 ได้เสร็จสิ้นลงผลงานต่างๆก็ได้ถูกห่อไว้ด้วยพลาสติกและเก็บไว้ในห้องเก็บของที่ในบ้านซึ่งทำด้วยไม้สักอย่างดี มีเพียง 2-3 งานได้แกะและแขวนดูในบ้านเท่านั้น
            แต่แล้วหัวใจผมแทบจะหลุดออกจากร่าง เพราะขณะที่จับรูปที่หลังจากการแสดงงานครั้งที่แล้ว ซึ่งได้ห่อเก็บไว้แต่ก็ไม่มีเวลามาตรวจสอบสภาพของงานมาหลายปี
           มันยุบลงไป ผมพยายามจะหาจับกรอบเฟรมไม้ ซึ่งไม่มีเหลืออีกเลยแม้แต่นิดเดียว ผมจึงแน่ใจว่ารูปงานของผมได้ถูกปลวกทำลายมันตายและเน่าเปื่อยมานานโดยที่ผมไม่ได้มีโอกาสได้ดูใจกับมัน
            ผมทำใจไม่ได้ ผมตะโกนเสียงดังและร้องโหยหวนอย่างที่ผมไม่เคยทำมาในชีวิต ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวสุดจะพรรณนา และในขณะนั้นผมยังคิดด้วยว่าผมควรจะตายตามผลงานผมไปด้วย
            ภรรยาและลูกสาวผมซึ่งบังเอิญหรือโชคดีที่วันนั้นกลับมาบ้านพอดี รีบวิ่งลงมาดูผมด้วยความตกใจและก็ได้รู้ว่าอะไรมันเกิดขึ้นกับผม
           ทุกคนรู้ดีว่าผลงานที่มันตายหรือพังไปนั้นมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของผม และผมก็ไม่รู้ว่าจะนึกภาพว่ารูปภายในผ้าพลาสติกเม็ดสำหรับห่อของนั้นมันจะอยู่ในสภาพอย่างไร
          การที่จะสร้างขยะให้เป็นงานศิลปะขึ้นมาใหม่มันก็ไม่ใช่ของง่าย
          ในสมัยที่ผมเรียนที่Kunstakademieที่Munich มีนักเรียน Meisterschülerอีกคนจาก Professor คนอื่น อยู่ห้องสตูดิโอติดกัน ซึ่งในห้องเขามีแต่ขยะเต็มทั้งห้อง และเขาบอกว่ามันเป็นงานศิลปะของเขา ผมก็ยังงงอยู่ดีว่า มันเป็นศิลปะลัทธิไหนกันแน่
            นั่นมันก็เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานชุดใหม่จากขยะซึ่งก็เป็นคำแนะนำจากลูกๆ ที่ยังพอมีสติอยู่
            และก็มีนักร้อง ศิลปินหลายคนในสมัยซิ๊กตี้ และเซเว่นตี้ ได้กลับเอาผลงานเก่ามาพรีเซนต์ใหม่ฃึ่งมันเป็นความท้าทายมากเช่นเดียวกับ The Rolling Stone ที่ผมได้มีโอกาสดู Concert เขาที่ Schuttbergสนามกีฬา Olympic ที่มุนเซ่น และก็เป็นแรงบันดาลใจให้ผมได้ทำงาน Installation ครั้งแรกบน Schuttbergเมื่อปี 1976 หรือ 30 ปีที่แล้วและก็ยังมีศิลปินคนอื่นๆท่ได้กลับมาแสดงผลงานในระยะตามมาอีกหลายคน
              ดังนั้น ผลงานของผมชิ้นนี้มันจะเป็นผลงานที่หลุดออกมาจากกรอบทฤษฎีและกฎเกณฑ์ต่างๆ และเป็นผลงานร่วมเวลาและสมัย ซึ่งใช้เวลาทำงานจากปี ค.ศ.1975 – 2018  เป็นเวลา 43 ปีพอดี
             ผลงานครั้งนี้จะไม่ใช้การนำเสนอบนกล่องอย่างที่เคยทำมา แต่ว่าจะนำเสนอโดยปรัชญาใหม่ที่ได้มาจากประสบการณ์ในการทำงาน และศึกษาประวัติศาสตร์ต่างๆ ในการทำงานท่องเที่ยว
            ผมจึงจะใช้ประสบการณ์นำเสนอด้วยปรัชญาการสร้างเมืองสุโขทัยของพ่อขุนรามคำแหง เมื่อ 750 ปีมาแล้ว เมืองสุโขทัยจะสร้างตามไหล่เขาในรูปแบบของขอม ซึ่งจะหันหน้าเมืองไปทางทิศใต้ เพราะจุดศูนย์กลางรวมจิตวิญญาณของขอม คือ ปราสาทวัดอังกอร์ แต่ของสุโขทัยจะหันหน้าเมืองไปทางทิศตะวันออก ตามปรัชญาของพระพุทธเจ้าที่ท่านตรัสรู้โดยหันหน้าไปทางทิศตะวันออก โดยมีต้นโพธิ์ (ภูเขา) ที่เป็นร่มบังแดดอยู่ด้านหลังทางทิศตะวันตก
            แต่ที่น่าสนใจของเมืองสุโขทัยคือ การสร้างเมืองสองแห่งตามหลักสุริยะจักรวาล (Universal System) คือ การสร้างเมืองเป็นรูปลักษณ์สี่เหลี่ยมจัตุรัส หันหน้าไปทางทิศตะวันออก และทางด้านทิศตะวันออกจะสร้างเมืองเล็กๆ เป็นเมืองบริวาร เช่นเดียวกับที่วัดศรีชุมที่สุโขทัยเช่นกัน ซึ่งเป็นไปตามหลักปรัชญาของสุริยะจักรวาล จากการมีดวงอาทิตย์ ก็จะมีดาวเคราะห์ และจากการมีโลก เราก็มีดวงจันทร์เป็นบริวารปรัชญานี้พ่อขุนรามคำแหงได้เก็บไว้เป็นของตนเองโดยที่ไม่ยอมบอกพ่อขุนเม็งรายเพื่อนรักซึ่งได้เมืองตามลักษณะของกรุงสุโขทัยและเมืองบริวาลนั่นคือโลกจักรวาล(Welt System) ปรัชญาในการพรีเซนต์งานครั้งนี้ในแต่ละชิ้น จะมีงานหลักและก็จะมีงานบริวาร เช่นกัน
            รวมทั้งการเปิดตัวของหนังสือสองเล่มชื่อว่า Lost the Wayและ  Out of the Wayเป็นเรื่องเล่าประวัติความเป็นมาประวัติการเดินทางรอบโลกด้วยจักรยานและมอเตอร์ไซด์ในปี ค.ศ.1968 และนี่ก็เข้าปี ค.ศ.2018เป็นเวลาผ่านมา  50 ปีพอดีและตอนนั้นมันก็เป็นวันและเวลาที่หอมหวนไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทั้งทางศิลปะวัฒนะธรรมและดนตรีในสมัยนั้นที่เราขนานนามว่า ยุค ฮิปปี้
            ในหนังสือจะรวมประวัติการศึกษาและการทำงานศิลปะโดยเฉพาะกับผลพวงในการเกิดผลงานชุด ออกนอกทาง เป็นผลงานครอบครัวที่เขียนเป็นภาษาไทยและแปลเป็นภาษาเยอรมันโดยภรรยาชาวเยอรมันบนกระดาษอาร์ทพิมพ์สี่สี260หน้ารูปอีกสามร้อยรูป

“เรื่องเล่าของอารมณ์” (The Tale of Moods)



นิทรรศการ                                  เรื่องเล่าของอารมณ์” (The Tale of Moods)
ศิลปิน                                        ปภาดา  ศิริสุวัฒน์ (Paphada   Sirisuwat)
                                                วนาภรณ์  เตี่ยมังกรพันธุ์ (Wanapohn  Taimungkornpun)
ลักษณะงาน                                 จิตรกรรม
ระยะเวลาที่จัดแสด                       วันที่ 5 – 22 กรกฎาคม 2561
ห้องนิทรรศการ                             ห้องนิทรรศการชั้น 1 ห้องนิทรรศกา2
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม            0918206956 (วนาภรณ์)
แนวความคิด
            วิถีแห่งจิตของมนุษย์ มีการรับรู้ในสัญญาความทรงจำ ประสบการณ์ในชีวิต ซึ่งมักแทรกเข้ามาในจิตใจนั้น เป็นสภาวะธรรมชาติของทุกคน ที่เกิดและดับหายไป แต่เมื่อใดที่วิถีแห่งจิตไม่อาจดำเนินไปตามสภาวะธรรมชาติ อันเนื่องมาจากความทุกข์ ความรู้สึกเศร้า ความเหงา ความโดดเดี่ยวในชีวิต สภาวะของอารมณ์ และจิตใจที่ไหลเลื่อน ล่องลอยไปตามความคิดฝันด้วยจิตภายในไร้ที่ยึดเหนี่ยว  เงาสะท้อนของภาพจากประสบการณ์และความทรงจำจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดในชีวิต จึงเป็นแรงผลักดันสำคัญ ที่ให้ความบันดาลใจ โดยมีจินตนาการช่วยแต่งเติมและกลั่นกรองเป็นผลงานด้วยรูปแบบทางทัศนศิลป์ ที่มีรูปลักษณ์ รูปทรง สีสัน บรรยากาศและองค์ประกอบอันเชื่อมโยงไปกับสาระ เรื่องราว ซึ่งศิลปินทั้งสองได้นำมาสะท้อนผ่านผลงานจิตรกรรมสีน้ำมัน แสดงถึง เอกลักษณ์ของความงาม ความนิ่งสงบ  สะท้อนความอ่อนไหวทางอารมณ์และจิตใจ  รวมถึงบุคลิกเฉพาะตัวที่แฝงเร้นไว้ด้วยสภาวะจิตและทัศนคติส่วนตัวของศิลปินทั้งสอง
The way of humans mind realizes the contact of memorization and life experience which appear in the mind. It is natural for everyone that they appear and disappear. When the way of mind does not proceed naturally because of sorrow, sadness, loneliness in the life, the condition of moods and the mind goes adrift through the dream by the internal mind without anything to trust in. The reflection of the picture from the experience and memory of life events is the important motivation to inspire. The imagination helps to augment and screen by the pattern of visual arts. The forms, colors, environment, and components are linked to the contents and stories which the two artists express through the artworks of oil paintings. They represent the identity of beauty, and calmness and reflect sensitiveness of emotion and mind including the personal identity hidden by mental condition and the two artistsindividual perspectives.